เป็นที่ทราบกันใช่ไหมครับว่า สิ่งหนึ่งในกระบวนการทำงานที่ผู้อ่านแบบจำเป็นต้องรู้เพื่อการผลิตชิ้นงาน คือ ค่าความคลาดเคลื่อน (Tolerance)
แล้วเราจะวิเคราะห์หาค่าความคลาดเคลื่อนในแบบงานได้อย่างไร มาดูกันครับ
ที่มาของค่าความคลาดเคลื่อนแบบแรก เป็นการหาค่าที่ง่ายที่สุด นั่นคือ ค่าความคลาดเคลื่อนที่มาพร้อมกับขนาดที่ถูกกำหนดในแบบงาน
วิธีนี้เป็นการกำหนดค่าลงไปในแบบงานโดยตรง ซึ่งการระบุค่าความคลาดเคลื่อนของขนาดด้านมิติ จะมี 2 ค่าคือ ค่าความคลาดเคลื่อนด้านบน (Upper tolerance) และค่าความคลาดเคลื่อนด้านล่าง (Lower tolerance)
ส่วนการระบุค่าความคลาดเคลื่อนของการควบคุมรูปร่างรูปทรง จะเป็นค่าที่อยู่ในช่องที่ 2 ของกรอบสัญลักษณ์ GD&T ซึ่งจะมีเพียงค่าเดียว คือค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมให้เกิดขึ้นได้มากที่สุดของการควบคุมรูปร่างรูปทรงนั้นๆ
ในกรณีที่ขนาดด้านมิติไม่ได้ถูกระบุค่าความคลาดเคลื่อน เราต้องหาค่าความคลาดเคลื่อนจากค่าความคลาดเคลื่อนทั่วไป (General tolerance)
ผู้อ่านแบบสามารถหาค่าความคลาดเคลื่อนของขนาดได้ โดยดูจากส่วนของ Title Block ซึ่งค่าความคลาดเคลื่อนทั่วไปอาจถูกกำหนดมาในรูปของตาราง ตัวเลข หรือมีการอ้างอิงด้วยมาตรฐาน
เช่น กระบวนการผลิตแบบมีเศษตัด (Machining process) จะใช้มาตรฐาน ISO 2768 หรือ DIN 7168 หรือ JIS B0409
ค่าความคลาดเคลื่อนทั่วไป ควรจะกำหนดให้ครอบคลุมทั้งขนาดด้านมิติ ขนาดมุม ขนาดด้านรูปร่างรูปทรง ความเรียบผิว และการลบคมของชิ้นงาน
นอกจากนี้ ยังมีค่าความคลาดเคลื่อนทั่วไปของลักษณะงานเฉพาะ เช่น ขนาดของเกลียวเมตริก M12 x 1.5
ที่มีการอ้างอิงความคลาดเคลื่อนของขนาดและโครงร่างจากมาตรฐาน ASME B1.1 3 M
สุดท้ายคือค่าความคลาดเคลื่อนที่ได้จากตารางพิกัดงานสวม (Standard Tolerance หรือ Fitting Tolerance) ซึ่งเป็นตารางค่าความคลาดเคลื่อนจากมาตรฐาน ISO 286-2 โดยจะมีการกำหนดในรูปแบบของรหัส
เช่น ขนาด Ø6 H12 ในแบบงาน หมายถึง ชิ้นงานเป็นรูที่มีค่าความคลาดเคลื่อนด้านบน บวก 120 ไมครอน และค่าความคลาดเคลื่อนด้านล่าง 0 ไมครอน
ในปัจจุบัน ผู้ออกแบบจะกำหนดรหัสของพิกัดการสวมไปพร้อมการกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนของงานสวมที่อยู่ในวงเล็บ เพื่อทำให้ผู้อ่านแบบสามารถทำงานได้ง่าย ทำให้เกิดความรวดเร็วในการทำงาน ลดความผิดพลาดในการเปิดตารางมาตรฐาน
และนี่คือที่มาของค่าความคลาดเคลื่อนในแบบงานทั้ง 3 ส่วน ได้แก่
ค่าความคลาดเคลื่อนที่ถูกกำหนดในแบบงาน
ค่าความคลาดเคลื่อนจาก General tolerance
ความคลาดเคลื่อนที่ได้จากตารางพิกัดงานสวม
แต่จริงๆ แล้ว ในกระบวนการทำงานยังมีการวิเคราะห์ค่าความคลาดเคลื่อนอีก 2 วิธี ได้แก่
ค่าความคลาดเคลื่อนแปรผัน (Variable tolerance)
ค่าความคลาดเคลื่อนจากความสามารถในกระบวนการผลิต (Maker tolerance)
ซึ่งถ้ามีโอกาสจะมาพูดคุยในโอกาสถัดไปครับ