Matrail condition

สภาวะเนื้อวัสดุ

วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับสภาวะเนื้อวัสดุแบบต่างๆ กัน ซึ่งสภาวะเนื้อวัสดุ อาจเรียกว่า Material Condition หรือ Material Requirement มีจุดประสงค์เพื่อการพิจารณาปริมาณเนื้อวัสดุในเงื่อนไขของขนาดที่แตกต่างกันออกไป 

การพิจารณาสภาวะเนื้อวัสดุจะสามารถทำได้กับขนาดที่เป็น Feature of Size เท่านั้นนะครับ 

ซึ่ง Feature of Size จะเป็นขนาดมีพิกัดความคลาดเคลื่อนเสมอ และเป็นที่ทราบกันดีว่าค่าความคลาดเคลื่อนจะก่อให้เกิดขนาดที่มีค่ามากที่สุดและค่าน้อยที่สุด 

เรามาดูตัวอย่างกันครับ 

จากแบบงานที่เห็น ขนาดของแท่งทรงกระบอกมีค่ามากที่สุดเท่ากับ 40.1 มีค่าน้อยที่สุดเท่ากับ 39.9 

ขนาดของแท่งสี่เหลี่ยมมีค่ามากที่สุดเท่ากับ 24.1 มีค่าน้อยที่สุดเท่ากับ 23.9 

ขนาดของรูมีค่ามากที่สุดเท่ากับ 40.1 มีค่าน้อยที่สุดเท่ากับ 39.9 

และขนาดของร่องมีค่ามากที่สุดเท่ากับ 24.1 มีค่าน้อยที่สุดเท่ากับ 23.9 

ในส่วนนี้คือการวิเคราะห์ขนาดและค่าความคลาดเคลื่อนในแบบงานครับ ซึ่งเป็นความเข้าใจพื้นฐานด้านการอ่านแบบที่เราต้องรู้ 

เรามาพิจารณาสภาวะเนื้อวัสดุแบบแรกกันครับ 

เป็นขนาดของ Feature of Size ที่ก่อให้เกิดปริมาณของเนื้อวัสดุมากที่สุดที่เป็นไปได้ 

เราจะเรียกสภาวะนี้ว่า สภาวะเนื้อวัสดุมากที่สุด เราอาจะเรียกทับศัพท์เลยว่า Maximum Material Condition (MMC) หรือ Maximum Material Requirement (MMR)

สภาวะนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเพลามีขนาดใหญ่ที่สุดหรือรูมีขนาดเล็กที่สุด 

ดังนั้นขนาดในสภาวะเนื้อวัสดุมากที่สุดของแท่งทรงกระบอกจะมีค่าเท่ากับ 40.1 

ขนาดในสภาวะเนื้อวัสดุมากที่สุดของแท่งสี่เหลี่ยมมีค่าเท่ากับ 24.1 

ขนาดในสภาวะเนื้อวัสดุมากที่สุดของรูมีค่าเท่ากับ 39.9 

และขนาดในสภาวะเนื้อวัสดุมากที่สุดของร่องมีค่าเท่ากับ 23.9 

สภาวะเนื้อวัสดุแบบต่อมา เป็นสภาวะด้านตรงกันข้ามกับสภาวะเนื้อวัสดุมากที่สุด นั่นคือสภาวะเนื้อวัสดุน้อยที่สุด เราอาจะเรียกทับศัพท์ว่า Least Material Condition (LMC) หรือ Least Material Requirement (LMR)

เป็นสภาวะที่ขนาดของฟีเจอร์ออฟไซด์ก่อให้เกิดปริมาณของเนื้อวัสดุน้อยที่สุดที่เป็นไปได้

สภาวะนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเพลามีขนาดเล็กที่สุดหรือรูมีขนาดใหญ่ที่สุด 

ดังนั้นขนาดในสภาวะเนื้อวัสดุน้อยที่สุดของแท่งทรงกระบอกจะมีค่าเท่ากับ 39.9 

ขนาดในสภาวะเนื้อวัสดุน้อยที่สุดของแท่งสี่เหลี่ยมมีค่าเท่ากับ 23.9 

ขนาดในสภาวะเนื้อวัสดุน้อยที่สุดของรูมีค่าเท่ากับ 40.1 

และขนาดในสภาวะเนื้อวัสดุน้อยสุดของร่องมีค่าเท่ากับ 24.1 

และในกรณีที่ไม่พิจารณาขนาดของชิ้นงานในสภาวะเนื้อวัสดุมากที่สุดหรือสภาวะเนื้อวัสดุน้อยที่สุด 

เราจะเรียกว่าสภาวะที่ไม่คำนึงถึงเนื้อวัสดุหรือเราอาจะเรียกทับศัพท์ว่า Regardless of Feature Size (RFS)

ในการเขียนแบบสัญลักษณ์ GD&T ถ้าเราต้องการให้ผู้อ่านแบบทำการพิจารณาสภาวะเนื้อวัสดุมากสุด เราจะกำหนดสัญลักษณ์ Modifier M (MMC) ในช่องของค่าความคลาดเคลื่อนทางด้านรูปร่างรูปทรง 

ถ้าต้องการพิจารณาสภาวะเนื้อวัสดุน้อยสุด เราจะกำหนดสัญลักษณ์ Modifier L (LMC)

แต่ถ้าไม่มีการกำหนดสัญลักษณ์ Modifier ก็จะถือว่าให้ทำการพิจารณาในสภาวะที่ไม่คำนึงถึงเนื้อวัสดุ (RFS)

สุดท้ายนี้ อย่าลืมนะครับว่า การพิจารณาสภาวะเนื้อวัสดุจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อชิ้นงานมีการกำหนดขนาดที่เป็นฟีเจอร์ออฟไซส์เท่านั้น 

และในทางกลับกัน ขนาดที่เป็นฟีเจอร์ออฟไซส์ก็ต้องมีการกำหนดเงื่อนไขในการพิจารณาสภาวะเนื้อวัสดุเช่นเดียวกัน