และแล้วเราก็มาถึงเรื่องสุดท้ายที่มีความเชื่อมโยงกับ GD&T นั่นก็คือ เรื่องของเอกสารและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน 

สิ่งที่เราต้องรู้เรื่องราวก่อนหน้านี้มีความสำคัญในระดับพื้นฐานของการทำงาน เนื่องจากว่าเป็นเรื่องราวของการทำความเข้าใจในนิยาม กฎเกณฑ์ วิธีการสูตร สมการการคำนวณต่างๆ เป็นสิ่งที่เป็นความรู้ความเข้าใจในการทำงานในมิติเดียว

แต่ในการทำงานจริงๆ เราจำเป็นต้องมีเอกสารและมาตรฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานในอุตสาหกรรมนั้นๆ มาร่วมใช้ด้วย เช่น มาตรฐานของผลิตภัณฑ์ มาตรฐานในการผลิต มาตรฐานในการตรวจสอบ ระบบควบคุมคุณภาพ เอกสารรองรับการตรวจประเมินจากลูกค้า ระบบเอกสารภายใน เป็นต้น

ดังนั้นส่วนที่มีความซับซ้อนในเรื่องของการทำความเข้าใจใน GD&T จะไม่ใช่เรื่องของสัญลักษณ์แต่จะเป็นเรื่องของการทำความเข้าใจในความเชื่อมโยงและการวิเคราะห์ใช้งานกับเอกสารหรือมาตรฐานการทำงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนั้นๆ 

ตัวอย่างมาตรฐานและระบบที่เราจำเป็นต้องรู้ เพื่อให้ผลลัพธ์ในการทำงานสมบูรณ์ตรงตามความต้องการลองลูกค้า เช่น มาตรฐาน ISO 9001 ในกรณีที่เราต้องการสร้างความมั่นใจด้านคุณภาพและมาตรฐานในการทำงาน มาตรฐาน ISO 13485 สำหรับงานผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ มาตรฐาน ASME Y14.8 สำหรับงานหล่อและงานทุบขึ้นรูป และรวมถึงมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรที่ในการผลิตชิ้นงานมีรูปร่างรูปทรงได้ตามที่เราต้องการ เช่น มาตรฐาน ISO 230 ที่เป็นทดสอบความแม่นยำและเที่ยงตรงของเครื่องจักร

นี้ยังไม่รวมถึงองค์ความรู้จาก textbox หนังสือ บทความและเอกสารทางด้านวิศวกรรมอีกหลายเล่มที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน 

ถ้าถามผมว่าอะไรเป็นเรื่องที่ท้าทายที่สุดในการศึกษาเรื่องของ GD&T คำตอบจะไม่ใช่เรื่องของการแปลความหมายสัญลักษณ์ แต่สิ่งที่ท้าทายที่สุด คือ “กระบวนการสร้างความเชื่อมโยงความรู้และออกแบบกระบวนการทำงานเพื่อผลิตและตรวจสอบให้ชิ้นงานที่ผลิตได้มีคุณภาพตามที่ลูกค้าต้องการด้วยประสิทธิภาพในการทำงานสูงที่สุดโดยใช้ตนทุนต่ำที่สุด” 

จะเห็นว่าเรื่อง GD&T เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งในเรื่องราวการผลิตทั้งหมด และทาง NEXTPERT ก็ใช้ GD&T เป็นหลักในการเชื่อมโยงไปยังการพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิต การลดของเสียด้านขนาดและมิติ การลดต้นทุนจากการปรับปรุงกระบวนการทำงาน