นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

บริษัท เน็กท์เพิร์ท จำกัด ต่อไปนี้จะเรียกว่า "บริษัท/เรา" เป็นผู้ให้บริการด้านการเป็นที่ปรึกษาและฝึกอบรม มีเว็บไซต์ https://www.nextpert.co.th/ แพลตฟอร์มออนไลน์ และช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ บริษัทขอเรียนว่า บริษัทเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และตระหนักดีว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่ละท่านมีความสำคัญอย่างยิ่ง บริษัทจึงต้องการที่จะชี้แจงให้ทราบเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ดังนั้น บริษัทจึงได้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เพื่อชี้แจงรายละเอียดและ วิธีการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย การคุ้มครองข้อมูล การเข้าถึงข้อมูล การโอนย้าย และการวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

ข้อมูลส่วนบุคคลในทีนี้หมายถึงข้อมูลต่างๆ ในการทำการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ แพลตฟอร์มออนไลน์ ช่องทางโซเชียลมีเดีย การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท ข้อมูลกาฝึกอบรม ข้อมูลการเข้ารับบริการให้คำปรึกษา ภาพกิจกรรมและประสบการณ์การเรียนรู้

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) นี้อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยบริษัทมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่า "ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" โดยมีพนักงานที่บริษัทมอบหมายโดยเฉพาะให้มีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่า "ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล" ส่วนท่านถือเป็น "เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล" ตามกฎหมายนี้

ข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้างที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย

เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่ ข้อมูลที่ท่านให้ไว้โดยตรงจากการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท ข้อมูลการฝึกอบรม ข้อมูลการเข้ารับบริการให้คำปรึกษา ภาพกิจกรรมและประสบการณ์การเรียนรู้ ผ่านหน้าเว็บไซต์ ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือช่องทางอื่นใด ได้แก่

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูล

เราจะนำข้อมูลของท่านมาใช้เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ https://www.nextpert.co.th/ แพลตฟอร์มออนไลน์ ช่องทางโซเชียลมีเดีย ตลอดจนการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้รับบริการ ทั้งช่องทางอิเล็กทรอนิกส์และช่องทางการทำกิจกรรมให้แก่ท่าน ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ เพื่อขอความยินยอม และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ บริษัทจะไม่กระทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์อย่างอื่น ที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับท่านไว้ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวม 

การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล การสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข การนำข้อมูลไปใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ

ก่อนที่บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน บริษัทจะทำการขอความยินยอมจากท่านก่อน โดยการขอความยินยอมบริษัทจะทำโดยชัดแจ้ง เป็นหนังสือหรือทำโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ 

ทั้งนี้ ท่านมีความเป็นอิสระในการให้ความยินยอมในการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะไม่กำหนดเงื่อนไขในการให้ความยินยอมเพื่อให้เข้าถึงการรับบริการ หรือเข้าทำสัญญากับบริษัท หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่มีความจำเป็นหรือเกี่ยวข้องสำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการรับบริการนั้น

บริษัทจะดำเนินการให้ข้อมูลของท่านนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บรวบรวมส่วนบุคคล บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่านก่อน เว้นแต่กรณีที่กฎหมายให้อำนาจไว้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือ มาตรา 26

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญา

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านเฉพาะเท่าที่จำเป็น ภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทได้แจ้งไว้ใน ข้อ 2. 

ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นที่ท่านจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อต้องเข้าทำสัญญากับบริษัท บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบก่อน และจะแจ้งผลกระทบหากท่านไม่ยินยอมให้ข้อมูลแก่บริษัท

บริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งที่มาอื่นที่ไม่ใช่ของท่านโดยตรง เว้นแต่กรณีที่บริษัทได้แจ้งท่านถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งที่มาอื่นภายใน 30 วัน และได้รับความยินยอมจากท่านแล้ว หรือเป็นการเก็บรวบรวมที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือมาตรา 26

บริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธ์ุ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน เว้นแต่เป็นกรณีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 26 บัญญัติให้กระทำได้

การใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะไม่ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านก่อนที่จะได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่เป็นข้อมูลของท่านที่เก็บรวบรวมได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือมาตรา 26

บริษัทจะดูแลให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายในเรื่องนี้โดยเฉพาะ มิให้ ใช้ หรือเปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอม หรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้

ในกรณีที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอก บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอกนั้นจะต้องแจ้งวัตถุประสงค์ในการ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บริษัททราบก่อน และต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้ให้ไว้แก่บริษัท

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทผู้ร่วมวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ การทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ การบริหารกิจการ และการส่งเสริมการตลาด เช่น การประชาสัมพันธ์กิจกรรม ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ ให้แก่ท่าน

ในกรณีที่บริษัท ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม บริษัทจะบันทึกการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์

ในกรณีที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ประเทศปลายทางหรือองค์กรระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีมาตราฐานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เว้นแต่เป็นกรณีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 28 (1) – (6)

สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่บริษัทกำหนดไว้ก่อนหรือในขณะหรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น

5.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น)

5.2 สิทธิในการขอเข้าถึง ขอรับข้อมูลหรือสำเนาข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง หรือรับ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเองที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร

5.3 สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ ในกรณีที่กฎหมายให้อำนาจบริษัทในการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านก่อน

5.4 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

5.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของได้ ดังต่อไปนี้

 5.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้

 5.7 ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลของท่านนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากบริษัทไม่ดำเนินการตามคำร้องขอ บริษัทจะบันทึกคำร้องขอของท่านพร้อมด้วยเหตุผลไว้เป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์

5.8 สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

5.9 การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล การใช้สิทธิละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

การเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่น

6.1 บริษัทอาจเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่น โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบก่อนที่จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมทั้งขอความยินยอม โดยมีรายละเอียดต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย 

6.2 หากมีการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมโยงข้อมูล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และขอความยินยอมก่อนการดำเนินการ

การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจปรับปรุงนโยบายส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและ/หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท การดำเนินงานของบริษัท และข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นจากท่าน โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลง หรืออาจส่งประกาศให้ท่านทราบโดยตรง

ท่านจะติดต่อบริษัทได้อย่างไร 

หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ผ่านช่องทางดังนี้

อีเมล: noraseth@nextpert.co.th

โทร: +66 (0) 8 6608 9247

สถานที่ติดต่อ: บริษัท เน็กท์เพิร์ท จำกัด 168/32 หมู่ 7 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี 20000 ประเทศไทย

เมื่อคุณตกลงยอมรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทจะถือว่าท่านยอมรับว่าการใช้บริการใดๆ ของบริษัทถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการทั้งหมด และการตกลงยอมรับดังกล่าวมีผลสมบูรณ์